ก่อนอื่นถ้าใครนึกหน้าตาของประกันออมทรัพย์ไม่ออก ให้นึกซะว่ามันเป็นลูกครึ่งระหว่างประกันชีวิตแบบตลอดชีพกับเงินฝากประจำ ที่มีเงินคืนรายงวดให้เป็นประจำทุกกี่ปีกี่ปีก็ว่ากันไปค่ะ (รายละเอียดไปอ่านในบทความเก่า ๆ ของเจ้นะคะ)
เอาล่ะค่ะ เห็นภาพกันคร่าว ๆ แล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าเลือกประกันยังไงให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
"เอ่า! เจ้คะ แล้วที่เขาพูด ๆ บอก ๆ กันว่า ผลตอบแทนตลอดสัญญา 200% 300% นี่วัดไม่ได้เหรอคะเจ้"
ถถถถ...นังส้มจี๊ด อยู่กะเจ้มาหลายปีแต่ก็มิได้นำพาเลยนะ "ไม่ได้ย่ะ"
ไอ้ที่เขาพูด ๆ กันว่าผลตอบแทน 200% 300% เนี่ย หลายคนยังไม่รู้ว่าจริง ๆ มันคือ 200% หรือ 300% จาก "ทุนประกัน" ไม่ใช่ "เบี้ยที่เราจ่าย" นะคะ ซึ่งบางทีเบี้ยที่จ่ายไปสำหรับประกันออมทรัพย์เนี่ย พอ ๆ กะทุนประกันเลยคร้าาา
ดังนั้น ถ้าจะคิดผลตอบแทนให้ถูกต้องคิดจาก "เบี้ยที่เราจ่าย" แถมเรายังจ่ายเป็นงวด ๆ อีก ยากไปอีกค่ะ ดังนั้น วิธีที่จะหาผลตอบแทนจากประกันออมทรัพย์ที่เหมาะที่สุด ซิสต้องคิดจาก "อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย (IRR)" ค่ะ ซึ่งจะอธิบายง่าย ๆ แบบชาวบ้าน ๆ เลยละกันค่ะ ถ้าพูดถึง "อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย" ให้เปรียบเทียบกับ "ดอกเบี้ยเงินฝาก" จะเข้าใจง่ายค่ะ สมมมติว่าเจ้บอกว่า IRR = 2% ก็ให้ตีซะว่าซิสฝากเงินหรือลงทุนได้ผลตอบแทนปีละ 2% อย่างนี้ยิ่งเยอะยิ่งดีผลตอบแทนยิ่งสูงจริงไหมคะ จบง่าย ๆ เลยค่ะ
แต่เอาจริง ๆ ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่การดูหรอกค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่เราจะรู้ได้ยังไงว่าในตลาดเนี่ยมีประกันออมทรัพย์ตัวไหนที่ให้ IRR มากสุด เพราะประกันออมทรัพย์ในตลาดมีมากมายเหมือนฝูงผู้ที่มาจีบหนู "เจ้คะ แล้วอย่างนี้หนูต้องไปช็อปเองไหมคะ" ขุ่นน้องคะถ้าขุ่นน้องต้องไปวิ่งถามสักสิบบริษัท นอกจากจะได้ประกันออมทรัพย์ดี ๆ แล้ว ยังอาจจะได้ตัวแทนเป็นสามี พร้อมสุขภาพที่ดีเพราะเดินจนเหนื่อย
เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะซิส!!!
เจ่เจ้มีวิธีแก้ปัญหา
ตอนนี้เจ่เจ้รวบรวมประกันบริษัทใหญ่ ๆ เกือบทั้งหมดมาไว้ในฐานข้อมูลแอสการ์ดของเจ้แล้ว โดยฐานข้อมูลแอสการ์ดของเจ้จะเลือกประกันออมทรัพย์ 5 แบบที่ดีที่สุดตามวัตถุประสงค์ของหนูมาให้หนูตัดสินใจเลือกด้วยตัวหนูเอง
ถ้าไม่เชื่อ มาลองกะแฟนสาวของนังส้มจี๊ดที่ตอนนี้อายุ 30 ปี ที่มีกำลังจ่ายเบี้ยได้เดือนละประมาณ 2,000 บาทกันค่ะ จริ้ว ๆ ๆ ๆ เทพแอสการ์ดแผลงฤทธิ์อภินิหาร หาประกันออมทรัพย์ให้แฟนสาวนังส้มจี๊ดด้วยยยยยย
ปิ๊งงงง...มาแล้วเห็นไหมคะ
1. ประกันของไทยประกันชีวิต แบบธนทวี 15/6 ที่มี IRR สูงถึง 2.91% จ่ายเบี้ยก็สั้นแค่ 6 ปีเองค่ะ แต่ให้ความคุ้มครองต่อเบี้ยค่อนข้างน้อยนะคะ ประมาณซะว่าจ่ายเบี้ยเท่าไรก็คุ้มครองเท่านั้น ครบ 15 ปี แฟนนังส้มจี๊ดจะได้คืนเป็นเงินก้อนประมาณ 120,000 + บาทค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความคุ้มครอง จะลดภาษีล้วน ๆ
2. ประกันของเอไอเอ แบบ E445 ที่มี IRR สูงถึง 2.72% ใกล้เคียงแบบแรก แต่ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงดีทีเดียว โดยมีอัตราส่วนทุนต่อเบี้ยที่ เบี้ย 1 บาทได้ทุน 9 บาท แต่อันนี้ก็จ่ายยาวกว่ามั่ก ๆ นะคะ จ่ายยาวถึง 21 ปี และครบ 42 ปีถึงได้คืน แต่ตอนได้คืนนี่ก็ได้เป็นเงินก้อนใหญ่ไปประมาณ 400,000+ เลยคร่า เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองพร้อมออมเงินบำเหน็จค่ะ
3. ประกันของกรุงเทพประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ 12/5 อันนี้เจ่เจ้ชอบเพราะเหมือนกับเอาข้อดีของสองตัวก่อนหน้ามารวมกันค่ะ เพราะให้ทุนต่อเบี้ยที่ 4.63 บาททุก ๆ เบี้ยประกัน 1 บาท จ่ายสั้นแค่ 5 ปี จะได้เป็นเงินก้อนเมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 12 ประมาณ 150,000+ บาทเลยคร่า แถม IRR 2.62% ก็พอใช้ได้ค่ะ ถ้าใครตัดสินใจไม่ได้ระหว่างแบบแรกกับแบบสอง แบบนี้เจ้ว่าตอบโจทย์
ที่สำคัญ IRR ที่แสดงเนี่ย ยังไม่รวมผลประโยชน์จากภาษีนะคะ ถ้ารวม IRR จะสูงกว่านี้อีกคร่า แถมทั้ง 3 แบบก็ทำให้ซิสมีเงินแสนทั้งนั้นค่ะ ว่าแล้วก็ลองเล่นเว็บ EJ-Fin.com ของเจ้ดูละกันนะคะ เพราะเงื่อนไขแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพศเปลี่ยน อายุเปลี่ยน แบบประกันที่ออกมาก็ต่างกันค่ะ พอเลือกที่ชอบได้แล้วก็กรอกข้อมูลให้ตัวแทนมาให้ข้อมูลอีกทีนะคะ เพราะข้อมูลในเว็บเจ้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นคร่า
เห็นไหมคะซิส เก็บเงินหลักแสนไม่ยาก ขอแค่สม่ำเสมอ แถมซิสยังสามารถเลือกประกันด้วยตัวซิสเองผ่านเว็บเจ้ ได้อย่างอิสระด้วยค่ะ
อย่าลืมติดตามเจ่เจ้ที่เพจเจ้ฮวยรวยประกันนะคะ
EJ-Fin.com อิสระแห่งการเลือกประกัน
ช่วงนี้เด็ก ๆ มาถามกันเยอะเหลือเกินค่ะ ว่าเจ้ช่วยเปรียบเทียบให้หน่อยระหว่างประกันออม อ่านเพิ่มเติม
มาดูกันค่ะว่าการจะซื้อประกันออมทรัพย์เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีเลือกยังไงให้เหมาะและดี ได้ร อ่านเพิ่มเติม