วางแผนการเงินเองทำยังไง

 

"เธอ สนใจวางแผนการเงินกับเรามั้ย?"

ประโยคคำถามที่คนฟังอยากจะหาตัวช่วยมาพาออกไปจากอีคนถามคำถามนี้ให้ไกลสักร้อยลี้ เพราะกลัวจะมาขายตรง แต่เจ่เจ้รู้ค่ะ ว่าซิสน่ะคิดและเห็นความสำคัญของ "แผนการเงิน" แต่ไม่อยากให้คนอื่นมาวางแผนแทน เพราะอยากจะทำด้วยตัวเองใช่ไหมคร้าา

 

งั้นวันนี้ เจ่เจ้จะมาขอเล่าแนวคิดของการวางแผนการเงินอันหนึ่งที่ใช้กันแพร่หลาย คือ

 

"พีระมิดวางแผนการเงิน"

 

ก่อนอื่นค่ะ ถ้าเจ่เจ้จะถามซิสว่า...ถ้าจะสร้างบ้าน อยากสร้างแบบไหน ระหว่าง

อีเจ้โง่ สร้างแบบแรกบ้านก็ถล่มเส่ะ แบบสองรัว ๆ คร่ะ

 

ใช่คร่ะ ซิสตอบถูก แต่เชื่อไหมคระ ว่าคนไทยชอบวางแผนการเงินแบบแรก...โดยเอาเรื่องของการลงทุน การเก็งกำไรมาเป็นฐานของพีระมิด ซึ่งถ้าทำแบบนี้เนี่ย ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินทางการเงินขึ้นมาก็พังคร้าาาา บ้านถล่มแผ่นดินทลาย ดังนั้น ถ้าจะให้การเงินมั่นคง เราต้องคิดใหม่คร่ะ ซิสต้องวางแผนการเงินจากฐานตามรูปคร่า

 

 

มาค่ะ เจ้จะอธิบายแต่ละชั้น

 

ชั้นที่ 1: ความจำเป็นพื้นฐานและการป้องกันความเสี่ยง (Basic Needs and Protection)

ในชั้นแรกเจ่เจ้กำลังพูดถึงปัจจัยสี่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค โดยต้องมีอย่างเพียงพอ บริหารเงินสดได้ โดยใช้ชีวิตได้โดยไม่ลำบาก ชักหน้าต้องถึงหลังค่ะ

 นอกจากนี้ซิสต้องเก็บเงินให้เพียงพอสำหรับใช้จ่ายโดยไม่มีรายได้อย่างน้อย 6 เดือน พร้อมกับแบ่งเงินบางส่วนมาบริหารความเสี่ยง โดยทำประกันรับเหตุฉุกเฉินทั้งด้านรายได้ครอบครัว สุขภาพ และสินทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าไม่ทำประกันก็ได้คร่าาา แต่ซิสต้องวางแผนรับความเสี่ยงนี้เองนะคร้าา

 

ชั้นที่ 2: การเก็บออมและสะสมความมั่งคั่ง (Wealth Accumulation)

ชั้นที่สองจะเป็นการเก็บออมเพื่อเป้าหมายที่เราตั้งขึ้น โดยในมุมมองของเจ้ คือ ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เช่น แผนการเกษียณ แผนการศึกษา แผนเปย์ทริปต่างประเทศ ซึ่งหลาย ๆ คนจะมองต่างกะเจ้ เพราะจะมองเป้าหมายระยะกลางถึงยาวเป็นส่วนมากคร่า ระยะนี้เป็นระยะสำคัญอันหนึ่งเพราะถูกจำกัดด้วยเวลาค่ะ เช่น เกษียณตอนอายุ 60 หรือเข้าเรียนช่วงชั้นไหนอายุก็จะตามนั้นค่ะ

 

หลาย ๆ ตำราจะแยกเรื่องการลงทุนออกมาเป็นอีกชั้นนึง แต่เจ่เจ้มองว่ามันคือขอบบน ๆ ของการออมคร่ะ คือถ้าคนออมจนมีเงินเหลือ ก็จะสามารถเอาเงินไปลงทุนต่อได้ การออม คือ พื้นฐานของการลงทุนคร่าาา

 

ชั้นที่ 3: การส่งต่อความมั่งคั่ง (Wealth Distribution)

ชั้นนี้จะเน้นการส่งมอบความมั่งคั่งสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน หรือจะให้ดี ต้องส่งมอบความมั่งคั่งสู่สังคมด้วยค่ะ เช่น การมอบมรดกให้ลูกหลาน การตั้งมูลนิธิช่วยสังคม ถ้านึกไม่ออกลองมองปู่วอเร็นหรือบิลเกตจ้า

 

ซึ่งถ้ามองกันดี ๆ ประกันเนี่ยสามารถตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ฐานพีระมิดไปจนถึงยอดเลยคร่า

ไม่เชื่อดูนี่ค่ะ
ชั้นที่ 1: ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันรถ ประกันอัคคีภัย

ซึ่งเบี้ยประกันถูกมาก ๆ ค่ะ อย่างถ้าขุ่นผู้อายุ 35 ต้องการทุนประกันโรคร้ายสัก 1 ล้าน ก็จ่ายเบี้ยหลักพันเองนะเออ ส่วนประกันชั้นหนึ่งรถก็หลักหมื่น ประกันอัคคีภัยนี่ยิ่งแล้วค่ะทุน 1 ล้านนี่ก็แค่ไม่กี่พันเอง สำหรับประกันสุขภาพและประกันรถยนต์ ตอนนี้ระบบเจ้ยังเล่นไม่ได้นะคร้า เมื่อไรได้แล้ว เจ่เจ้จะมาป่าวประกาศให้รู้ไปสามสิบบ้าน แปดสิบบ้านคร่ะ ระดับเจ่เจ้ สามบ้านแปดบ้านมันน้อยไปค่ะ

ชั้นที่ 2: ประกันออมทรัพย์ ประกันบำนาญ

ประกันออมทรัพย์เนี่ยเน้นการสร้างความคุ้มครองพร้อม ๆ กับออมเงิน (ความคุ้มครองมาก่อนเสมอนะคะ) ซึ่งหากขุ่นผู้อายุ 35 อยากทำประกันเพื่อสร้างความคุ้มครองพร้อมกันออมบำเหน็จเนี่ย ซิสลองเข้าเว็บ EJ-Fin.com แล้วเลือกประกันของไทยประกัน แบบธนทวี 25/15 หรือ เอไอเอ 15 Pay 25 Special (Par) ก็ได้ค่ะ สำหรับขุ่นผู้อายุ 35 ปี จ่ายเบี้ยแค่เดือนละละประมาณ 2,000 ก็ได้บำเหน็จตอนอายุประมาณ 60 กันไป 7-8 แสนเลยนะคะ ในส่วนของบำนาญลองอ่านบทความเก่า ๆ เจ่เจ้ได้ เช่น ประกันบำนาญจ่ายสั้น ๆ หรือ บำนาญปีละล้านสร้างได้สไตล์ฟรีแลนซ์ ลองเข้าไปเล่นกันค่ะ ว่าอายุอย่างซิสถ้าทำแล้วจะได้เท่าไร เพราะอายุไม่เท่ากันเงินที่ได้ก็ไม่เท่ากันคร่า

ชั้นที่ 3: ประกันชีวิต (ทุนสูง ๆ)

อันนี้เน้นการสร้างกองมรดกค่ะ เชื่อไหมคระ ว่าถ้าสามีขุ่นน้องอายุสัก 30 ปี สามารถสร้างมรดก สัก 30 ล้าน++ ให้ขุ่นน้องได้ โดยจ่ายเบี้ยประกันปีละประมาณ 600,000 บาท ไป 20 ปี แต่ถ้า 30 ล้าน++ มากไป ลองลดทุนประกันเล่น ๆ เบี้ยก็จะถูกลงค่ะ ไม่เชื่อลองเล่นเว็บเจ้ดูนะคร้า ว่าเบี้ยน้อยหอยใหญ่แบบเราเนี่ย จ่ายเบี้ยไปแล้วจะได้ทุนสักกี่บาท

 

แล้วเจ่เจ้บอกเลยคร้าาา วันนี้ซิสมีสิทธิ์เลือกประกันได้ด้วยตัวเองแล้ว โดยค้นหาผ่านเว็บ EJ-Fin.com คร้าาา 

หาข้อมูลอย่างอิสระได้ด้วยตัวซิสเองจนพอใจ ได้แบบประกันแล้วค่อยให้ตัวแทนโทรหา

ฟินไหมคระแบบนี้ แน่นอนค่ะ เพราะสโลแกนของเจ่เจ้ตอนนี้คือ

EJ-Fin.com อิสระของการทำประกัน