ผ่านพ้นช่วงพีคของการหาเครื่องมือลดหย่อนภาษีกันไปแล้ว และตอนนี้เจ้เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยื่นภาษีเงินได้กันไปเรียบร้อย แล้วก็กำลังรอเงินคืนภาษีกันอยู่ แหม่!!! ชิลเดรนของเจ้ทั้งหลาย เจ้รู้นะคะว่าหนูเนี่ยก็เริ่มคิดกันแล้วด้วย ว่าจะเอาเงินคืนที่ได้จากการลดหย่อนภาษีไปทำอะไร แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ก่อนที่ใครจะคิดเลยเถิด เจ่เจ้ขอเสนอทางเลือกในการใช้เงินคืนภาษีเอาไว้ให้ซิสพิจารณาหน่อยละกันคร่าาา เผื่อจะเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ
เจ้เชื่อว่าหลายคนมีความฝันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน การไปเที่ยวต่างประเทศ การซื้อของขวัญให้ตัวเองสักอย่าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ะซิสขา ตอนนี้ไม่พูดเรื่องนี้ไม่ได้เลยค่ะ ถ้าซิสเป็นโอตะ โอชิ เจ้รู้นะคะ ว่าซิสต้องอยากได้บัตรจับมือกับคอลเลคชั่นรูปถ่ายน้อง ๆ แน่นอน (อย่างเจ้นี่โอชิน้องเฌอปรางกะน้องแจน) เจ้พูดเลยค่ะ ถ้ารักจะชอบอะไรแล้ว ทำไปเถอะค่ะ การเที่ยวต่างประเทศหรือการซื้อบัตรจับมือ หากมีเงินเหลือและรู้จักแบ่งสรรปันส่วนเก็บด้วยแล้วก็ใช้บ้าง การใช้เงินซื้อความฝันนี่ไม่ได้เสียหายนะคะ มันเป็นการซื้อความสุข ซื้อประสบการณ์ชีวิต ซื้อเรื่องเล่า เผื่ออนาคตเจอคนชอบเหมือนกัน เกิดเป็นคอนเนคชั่นธุรกิจก็มากคร่า อีกอย่างพักผ่อนบ้าง ทำอะไรที่มันดีต่อใจบ้าง สายพิณขึงตึงไปมันก็ขาดนะคะซิส
อันนี้สำมะคัญมั่ก ๆ ค่ะ จริง ๆ เจ้ควรจะเอาขึ้นมาเป็นอันแรก แต่ขอจิกกัดนิดนึงค่ะ ตอนมีความสุขมีเงิน น้อยคนจะนึกถึงผู้มีบร๊ะคุณค่ะ แถมส่วนใหญ่เจ้ว่าจะนึกกันก่อนว่าจะใช้เงินคืนภาษีให้หมดไปได้ยังไงมากกว่า จะเอาไปให้ขุ่นพ่อขุ่นแม่ซะอีก ดังนั้น ซิสคะ ปรับทัศนคติค่ะ ได้เงินคืนภาษีมาอย่าลืมแบ่งบางส่วนซื้อของขวัญให้ผู้มีบร๊ะคุณบ้าง ไม่ว่าจะพ่อ แม่ ครู เจ้านาย ฯลฯ นอกจากจะเป็นการตอบแทนพระคุณท่านแล้ว เวลามีงานมีเงิน ท่าน ๆ ก็จะได้นึกถึงหนูก่อนใครคร่า ยิ่งช่วงนี้ยังไม่หมดปีใหม่ ยังทันนะตัวเธอ
เจ้าหนี้ที่รักขาาา ไม่ต้องทวงเจ้นะคร้า ทั้งหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตร สารพัดสารเพ เจ้ได้เงินมาจะใช้ให้หมดคร่า โดยเฉพาะคนที่หนีไปยืมหนี้นอกระบบ ดอกร้อยละ 5 ร้อยละ 10 (เขาคิดกันต่อเดือนนะตัวเธอ) ลองคิดดูค่ะว่า 1 ปี ชีจะประหยัดดอกได้เท่าไร สมมติดอกร้อยละ 10 ต้น 10,000 บาท ก็ประหยัดดอกได้ 12,000 บาทต่อปีเชียวนะคร้า ส่วนหนี้บ้าน ลองใช้โปรแกรม Financial Calculator คิดดูค่ะว่าตัดต้นไปสัก 10,000 บาทจะประหยัดดอกเบี้ยตลอดสัญญาได้กี่แสน ดอกที่ไม่ต้องเสีย ก็คือเงินที่อยู่ในกระเป๋าเรามากขึ้นคร่า
ข้อนี้เจ้ชอบคร่า โดยเฉพาะซื้อสร้อย ซื้อแหวน ซื้อนาฬิกา เอาไว้แลกใส่กะเพื่อน อุ๊ย!!! ไม่ใช่สิ เอาไว้สะสมค่ะ พวกนี้นับได้ว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกค่ะ โดยเฉพาะวัตถุมีค่า เช่น เพชรหรือทองที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าซิสโตมาพร้อม ๆ กะเจ้ ซิสจะได้เห็นทองบาทละ 400-800 จนทุกวันนี้ทองบาทละเกือบ 20,000 ละคร่า นอกจากจะเอาไว้สะสมแล้วยังเอาไปใส่ออกงานสังคมได้อีก ดีงามไหมล่ะคร้า ส่วนใครที่จะแบ่งไปเก็บเป็นเงินดาวน์อสังหาริมทรัพย์ก็ได้นะคร้า อนาคตก็ยังปล่อยเช่าได้อีกคร่า
สำหรับข้อนี้ ให้คิดซะว่าเงินคืนภาษีที่ได้เป็นผลตอบแทนทบต้น (เงินที่ไม่ต้องเสียถือซะว่าเป็นผลตอบแทนที่เราสร้างได้เพิ่ม) โดยเราจะเอาไปซื้อ LTF RMF หรือ DCA หุ้นวนไป นอกจากจะได้ผลตอบแทนจากกองทุนหรือหุ้นแล้ว ถ้ายังใช้สิทธิลดหย่อนไม่เต็ม ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เพิ่มอีก แบบนี้เรียกได้ว่าได้ผลตอบแทน 2 ต่อคร่า
เจ้เชื่อค่ะว่าข้อนี้เป็นข้อที่หลาย ๆ คนมองข้าม และคิดว่าเจ้จะมาขายของ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เจ้แค่จะบอกว่า การซื้อประกันเป็นการปกป้องเงินเก็บในอนาคต โดยเฉพาะประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ลองคิดนะคะ สมมติซิสต้องผ่าไส้ติ่ง แล้วชีวิตซิสไม่มีสวัสดิการและประกันอะไรเลย ผ่าโรงพยาบาลเอกชนก็ 6-7 หมื่นบาท (เด็กเจ้พึ่งไปผ่ามาเมื่อปีก่อน) ลองคิดสิคะ ซิสจะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่เงินเก็บ แต่ถ้าซิสอยู่ในวัยทำงาน อายุสัก 30 ปี ผู้ชาย ทำประกันสุขภาพแบบไม่พ่วงประกันชีวิต แบบค่าห้องประมาณ 3,000 บาทต่อวัน ก็จ่ายเบี้ยแค่ 10,000 - 13,000 บาทเองคร่า เรียกว่าผ่าไส้ติ่งทีก็คุ้มไป 5-6 ปีทีเดียว ไม่เชื่อลองค้นผ่าน EJ-Fin.com ได้เลยคร่า
เอาล่ะคร่า สุดท้ายจริง ๆ แล้วซิสจะเอาเงินไปทำทั้งหมดที่เจ้เล่าเลยก็ได้คร่า แบ่ง ๆ เงินไปใช้เนอะ ไหน ๆ ก็ได้เงินคืนภาษีจากประกันไปมากมาย แต่ยังงั้ย ยังไงก็เน้นเรื่องการลงทุนกับซื้อประกันหน่อยละกันคร่าา เพราะการลงทุนกับการซื้อประกันนี่แหละค่ะ ที่จะทำให้ซิสเหลือเงินไปซื้อบัตรจับมือกับจ้างคนมาสอนเต้นคุ้กกี้เสี่ยงทายนะตัวเธอว์