Unitlink พระเอกของคนมีห่วง

 

เมื่อหลายวันก่อนนังกูดูมานั่งคุยเรื่องประกัน ร่ำไห้ร่ำหวน มาหาเจ่เจ้บอกว่า

"เจ้ ๆ ผมพึ่งมีลูกน้อย ออกจากบ้านทีไรห่วงเขาทุกที กลัวว่าถ้าวันนี้ขับรถกลับไม่ถึงบ้าน ลูกจะไม่มีคนส่งเสีย อยากทำทุนประกันเพิ่ม แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ขอดูข้อมูลจากเจ้หน่อย" 

อีเราก็ใจดี เปิดให้มันดู แล้วมันก็หยิบ Excel ขึ้นมา กรอก ๆ ตัวเลขลงไปยิก ๆ ๆ สักพักมันก็เงยหน้าขึ้นมาร้องตะโกนว่า "ยูเรก้า" ในใจเจ้นึก "บักผีบ้า" คนอีหยังอยู่ดี ๆ ก็ร้องยูเรก้า เอ้าบ้าหรือเปล่า รอบตัวฉันทำไมมีแต่คนไม่ปกติ ด้วยความเป็นห่วงน้อง เลยถามมันว่า เอ็งยังสติดีอยู่ใช่ไหม ยูเรก้าเรื่องอะไร มันเลยเล่าให้เจ้ฟังจนเป็นประเด็นของวันนี้เลยจ้า

เรื่องมีอยู่ว่า....น้องกำลังเปรีบเทียบผลที่ได้จากการวางแผนการเงิน 4 แบบ ว่าทางเลือกไหนเป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับน้องที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์และข้อจำกัด คือ

1. ทุกกรณีหากเกิดเหตุไม่คาดฝันต้องมีเงินให้ลูกได้เรียนจนจบปริญญาตรี (10 ล้านบาท)
2. หากลูกต้องการเรียนต่อต่างประเทศต้องมีเงินเก็บอย่างน้อย 5 ล้านบาท
3. หากลูกไม่ต้องการเรียนต่อ ตอนที่อายุ 60 เกษียณแล้วต้องมีเงินมรดก หรือเงินเกษียณ 1 ก้อน
3. ระยะเวลาเก็บออม 20 ปี 
4. จ่ายเงินต่อปีไม่เกิน 200,000 บาท
5. ผลตอบแทนคาดหวัง 6% ต่อปี

โดยกูดูทำตาราง Excel ออกมาบนสถานการณ์ 4 แบบ คือ 
1. ลงทุนอย่างเดียวด้วยเงินปีละ 200,000 บาท ไม่ทำประกัน
2. ทำประกันแบบชั่วระยะเวลาอายุสัญญา 20 ปี เงินที่เหลือนำไปลงทุน
3. ทำประกันแบบ Unitlink หยุดชำระเบี้ยเมื่อชำระครบ 20 ปี
4. ทำประกันแบบตลอดชีพ (Wholelife) แบบชำระเบี้ย 20 ปี

ผลปรากฎว่าได้ตารางแบบนี้คร่า


 

เจ้ดูแล้วก็ยังงง อีหยังวะ ตัวเลขบักหลาย เลยถามมันว่า "สรุปที่ยูเรก้านี่เธอยูเรก้าอะไร"
นางเลยตอบว่า "ยูเรก้าที่เลือกแบบประกันได้แล้วเจ้" 
"แล้วเลือกทางเลือกไหน"
"ผมเลือกทำ Unitlink (กรณีที่ 3)"

และต่อไปนี้คือเหตุผลที่นางเลือก Unitlink (กรณีที่ 3) น่าสนใจมาก โดยนางเรียงลำดับการตัด Choice และการเลือกของนางไว้ โดยนางวิเคราะห์ว่าอย่างนี้ค่ะซิส ต้องอ่าน ห้ามพลาดเลยนะคะ

กรณีที่ 1 ลงทุนอย่างเดียวโดยไม่ทำประกัน

นางให้เหตุผลว่าทางเลือกนี้นางตัดออกเป็นอันแรก เนื่องจากไม่ตอบโจทย์เรื่องการคุ้มครองหากนางเสียชีวิตก่อนวัยอันได้ดูลูกเติบโต จริงอยู่ที่เงินให้ลูกเรียนปริญญาโทและเงินเกษียณนางจะได้มากที่สุด คือ ประมาณ 7.8 ล้านบาท และ 12.5 ล้านบาท แต่หากเกิดอะไรระหว่างทาง ชีวิตลูกนางคงบรรลัย และนางก็ไม่สามารถให้สัญญากับลูกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ป่ะป๊าจะฮึบ ทนพิษบาดแผลให้ไหว แล้วไปโรงพยาบาล เพราะบางอาการมันก็ต้องตายจริง ๆ ค่ะ เจ้ก็ถามนางนะ ญาติ ๆ เธอก็เยอะ เขาคงดูแลนะกูดู แต่นางก็เล่าให้ฟังค่ะ ว่าถ้าวันนี้เราเอาลูกไปฝากญาติเลี้ยง เราคงจะส่งเงินให้ญาติเพื่อให้เขาดูแลลูกเราให้ดี หากไม่มีเงินส่ง คงต้องดูแลกันตามมีตามเกิด ดังนั้น "ผมยินดีที่จะให้เงินญาติไว้ดูแลลูกผมก้อนนึง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี" เออ...ก็จริง 

กรณีที่ 4 ทำประกันตลอดชีพ ทุนประกัน 10 ล้าน

ทางเลือกที่ 4 ถูกนางตัดออกเป็นลำดับที่ 2 ค่ะ เพราะเกินงบ และหากเวนคืนมาให้ลูกเรียนปริญญาโท นางจะได้เงินเป็นมูลค่าเวนคืนเพียง 3.34 ล้านบาท และหากรอไปเวนคืนตอนอายุ 60 เป็นเงินเกษียณได้แค่ 4.43 ล้านบาทเองจร้า ถึงแม้ผลตอบแทนและความคุ้มครองจะคงที่ แต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องผลตอบแทนเพราะได้น้อยที่สุดในสี่ทางเลือกพี่กูดูแกก็เลยขอบาย  

กรณีที่ 2 ทำประกันแบบชั่วระยะเวลาอายุสัญญา 20 ปี เงินที่เหลือนำไปลงทุน

ตอนแรกนางก็ลังเลค่ะที่จะเลือกระหว่างทางเลือกนี้กับการซื้อประกันควบการลงทุนหรือ Unitlink เพราะตัวเลขที่ได้หากลูกต้องการเรียนปริญญาโทก็มากกว่าการทำ Unitlink นิดหน่อย ประมาณ 2 แสนกว่าบาท แถมหากต้องการเงินเกษียณยังได้มากกว่าเกือบ 1.7 ล้านบาท แต่ด้วยความรักและความเป็นห่วงลูก นางจึงได้ยูเรก้าและเลือกทางเลือกในการทำประกันควบการลงทุน หรือ Unitlink

กรณีที่ 3 ทำประกันแบบ Unitlink หยุดชำระเบี้ยเมื่อชำระครบ 20 ปี (ทางที่กูดูใช่ ทางที่กูดูชอบ)

กูดูบอกกับเจ้ว่า สาเหตุที่เลือกทางเลือกที่เพราะตอบโจทย์นางได้ไหมทุกโจทย์  ถอนเงินมาให้ลูกเรียนโทได้ 5.26 ล้านบาท หรือรอเกษียณก็ได้เงินราว ๆ 7 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้ดูแล้วอาจจะน้อยกว่าทางเลือกก่อนหน้า แต่เหตุผลสำคัญที่นางตัดสินใจเลือกอันนี้ เพราะเรื่องของความยืดหยุ่นค่ะซิส นางบอกว่าหากนางเลือกประกันแบบชั่วระยะเวลา เมื่อจ่ายครบ 20 ปีแล้ว นางอาจไม่สามารถจ่ายต่อได้ เพราะแก่แล้วสุขภาพก็อาจจะไม่ดี แต่ Unitlink ไม่ใช่ค่ะ เพราะสามารถต่อประกันได้เรื่อย ๆ และหากเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 53-60 ปีเป็นต้นไปก็เป็นทางเลือกที่ได้มรดกให้ลูกเยอะที่สุดคือ ประมาณ 17 ล้านบาท (ถ้าตายตอนอายุ 60 ปี) มากกว่าทุกทางเลือกกันเลยทีเดียวจ้า 

ด้วยการตัดทางเลือกและเหตุผลประกอบต่าง ๆ ที่นางให้มาก็เข้าใจได้ว่าทำไมนางเลือก Unitlink แต่จริง ๆ มีคำพูดของนางคำพูดหนึ่งที่เจ่เจ้ชอบมาก ๆ ค่ะ นางบอกว่าการทำประกันเหมือนบะหมี่สำเร็จรูป เวลาที่ชีวิตโดนน้ำร้อน มันจะพองมาให้คนข้างหลังพร้อมกินได้ทันที แต่ Unitlink เป็นได้ทั้งบะหมี่สำเร็จรูป และอาหารเหลา พูดง่าย ๆ คือ ถ้าโดนน้ำร้อนก็พร้อมพอง ถ้าไม่โดนน้ำร้อนก็มีเงินกินโต๊ะจีนกันทั้งบ้านเลยทีเดียวค่ะ 

 

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจวางแผนความมั่งคั่ง ตอนนี้เจ่เจ้มีทีมงานเป็นของตัวเอง สามารถให้น้อง ๆ วางแผนการเงิน จัดพอร์ตประกัน วางแผนมรดก ร่างสัญญาทางกฎหมายให้ได้ โดยคลิกลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่า คลิกแล้วส่งข้อมูลก็อย่าใจร้ายกะน้อง ๆ เจ้นะคะ รักนะจุ๊บ ๆ