เป็นหนี้ทั้งทีควรทำประกันแบบตลอดชีพหรือประกันสินเชื่อแบบชั่วระยะเวลา

 

ฮัลโหลววววชิลเดร้นนน

 

เจ่เจ้ขอเล่าที่มาของเรื่องราววันนี้ก่อนค่ะ เมื่อไม่กี่วันก่อนโรแบร์โต้ (คนไทยนี่แหละค่ะ นี่ชื่อดัดจริตมัน) น้องข้างบ้านอายุ 30 กำลังกรุบกรอบ มาเมาท์มอยหอยสังกะละมังส้มโอกะเจ้ กึ่ง ๆ ปรึกษาค่ะ คือนังโรแบร์โต้เนี้ยยย อยู่กับแฟนและลูกอีกคนหนึ่งค่ะ แล้วตัวก็มีหนี้บ้านหนี้รถอยู่ราว ๆ 2 ล้านบาท ก็ถือว่าปกตินะคะสำหรับชีวิตมนุษย์เงินเดือน ด้วยที่ว่ามีเบ่บี๋ มันก็กลัวคร่า เกิดเป็นอะไรขึ้นมาใครจะดูแลลูกเมีย มันก็เลยมาปรึกษาเจ้ว่า มีหนี้แบบมันเนี่ย ทำประกันอะไรดี

 

เจ้เห็นว่าเคสนี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการเลือกทำประกันของซิสด้วย เจ่เจ้ก็เลยขอเมาท์มอยแบบประกันที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงเรื่องหนี้ให้ซิสได้ สองแบบ คือ ประกันสินเชื่อ (Term) หรือประกันชีวิตประเภทตลอดชีพ (Whole Life) ค่ะ

 

ประกันสินเชื่อ VS ประกันชีวิตตลอดชีพ

ประกันสินเชื่อเป็นประกันประเภทชั่วระยะเวลาแบบหนึ่งค่ะ แต่ที่เจ้จะมาเล่าวันนี้เป็นแบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว 42,200+ บาท คุ้มครอง 10 ปี ทุนประกันเริ่มต้น 2 ล้านบาท ส่วนของประกันชีวิตแบบตลอดชีพเจ้เอาแบบ จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี เบี้ยปีละ 42,400+ บาทซึ่งใกล้เคียงกันเลยคร่า อ้อ!!ตัวเลขที่เจ้ใช้ทำกราฟมาจากตัวเลขจริงของบริษัทประกันแห่งหนึ่งนะคะ และทั้ง 2 แบบมาจากบริษัทเดียวกันค่ะ แถมใช้คิดลดหย่อนภาษีได้ทั้งสองแบบเลยน้าาาา เอาล่ะ...

 

มาดูประกันสินเชื่อก่อนค่ะ

เจ้ลองทำกราฟเปรียบเทียบให้นังโรแบร์โต้มันดูเลยค่ะ ถ้าซิสเรียนเลขได้เกรด 1 ขึ้นไป ซิสจะเห็นว่าประกันแบบนี้ซิสจ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ อย่างนี้ก็บริหารจัดการเงินง่ายค่ะ จ่ายครบจบแน่!!! แต่ทุนประกันสินเชื่อมันลดลงเรื่อย ๆ ทุกปี จาก 2,000,000 จนเป็น 0 ตอนจบปีที่ 10 ไม่ได้อะไรคืนเลย แปลว่าซิสจะมีความคุ้มครองลดลงเรื่อย ๆ ตามหนี้ของซิสที่ลดลงเรื่อย ๆ ทุกปี (เมคเซนส์เนอะ) โดยมีทุนสูงสุดปีแรกที่ทำประกันคร้าาาา

 

มาดูฝั่งประกันชีวิตแบบตลอดชีพกันบ้าง

ประกันชีวิตนี่แน่นอนว่าความคุ้มครอง 2,000,000 บาท คงที่ตลอดกาลนาน แต่ซิสต้องจ่ายเบี้ยไปเรื่อย ๆ จนครบ 20 ปี ถึงจะหยุดจ่ายได้ รวม ๆ ก็ 840,000+ บาท  คร่า แต่ที่น่าสนใจ เจ้อยากให้ซิสเปย์แอทเทนชั่น (ไม่ใช่เปย์หนุ่มนะคะ) ที่เส้นสีส้ม (มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์) จากกราฟซิสจะเห็นเลยค่ะว่า มูลค่ากรมธรรม์ของซิสจะเท่ากับเบี้ยประกันที่ซิสจ่ายไปตอนประมาณสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 26 (แต่ละแบบไม่เท่ากันนะคะ รบกวนสอบถามตัวแทน) นั่นแปลว่า ถ้าซิสถือกรมธรรม์ไปจนครบ 26 ปี ซึ่งตอนนั้นอาจจะผ่อนบ้านผ่อนรถหมดแล้ว ซิสปิดกรมธรรม์จะได้เงินคืนเท่ากับเงินที่ซิสจ่ายไป

 

ถ้าไม่นับรวมเรื่องมูลค่าเงินตามเวลา ซิสจะได้ความคุ้มครอง 2,000,000 บาท ฟรี ๆ 26 ปี และยิ่งถ้าถือกรมธรรม์ไปเรื่อย ๆ แล้วรอไปปิดกรมธรรม์ตอนกรมธรรม์ครบ 35 ปี ซิสจะได้เงินกลับมา 1 ล้านกว่าบาทเป็นเงินบำเหน็จกรณีลูกมันทรพีไม่เลี้ยงดูคร่า แต่ถ้าซิสตายก่อน ลูก เมีย หรือสมีก็รับ 2,000,000 บาทไปเต็ม ๆ แต่ขอบอกค่ะ ถ้าซิสทำประกันที่จ่ายยาวแบบนี้ซิสต้องมีวินัยการเงินจ่ายเบี้ยทุกปีนะคร้า การจัดการเงินก็จะผูกพันธ์ยาวกว่าคร่า

 

ร่ายมาซะยาว เหมือนจะเชียร์ให้ทำประกันชีวิตมากกว่าประกันสินเชื่อ แต่จริง ๆ ไม่ใช่หรอกค่ะ เจ่เจ้พูดเลย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ งบประมาณ การบริหารการเงิน และความพอใจของผู้ทำประกันคร่า ที่เจ้เสนอก็แค่เทคนิคพลิกแพลงกับประกันชีวิตนิด ๆ หน่อย ๆ แค่นั้นเองเนอะ

 

ถ้าซิสสนใจ ลองเข้าไปทำเปรียบเทียบประกันได้ตามลิงค์นี้เลยจร้าาา
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (ประกันสินเชื่อ)
 

#แล้วตัวแทนแห่งกรมธรรม์จะคุ้มครองเธอเอง

ติดตามเจ่เจ้ได้ที่: เจ้ฮวยรวยประกัน